บ้านตู้คอนเทนเนอร์ราคาเขตบางนา
5 หัวใจสำคัญในการบริหารธุรกิจงาน รับเหมาก่อสร้าง ให้ปัง !
5 หัวใจสำคัญในการบริหารธุรกิจงาน รับเหมาก่อสร้าง ให้ปัง !
งาน รับเหมาก่อสร้าง ถือว่าเป็นงานที่ต้องทำกับหลายๆฝ่าย ผู้รับเหมา ก่อสร้างต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ทั้งบริหารคน บริหารเวลา เลือกวัสดุก่อสร้าง ควบคุมที่หน้างาน ประสานงานกับเจ้าของโครงการ และบริหารต้นทุนก่อสร้าง ทำให้ผู้รับเหมาบางคนถึงกับต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว เพราะถ้ามีบางสิ่งผิดพลาดก็จะทำให้งานส่วนอื่นได้รับผลกระทบตามๆกันไป ดังนั้นมาดูกันว่าหัวใจของงานรับเหมาก่อสร้างมีอะไรบ้าง ถ้าอยากเป็นผู้รับเหมาที่ดี และบริหารงานได้ดี
- ต้นทุน
ต้นทุนเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการบริหารงาน รับเหมาก่อสร้าง เพราะต้องใช้เงินในการบริหารงานต่างๆทั้งซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง จ่ายค่าแรงงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้รับเหมาต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในการบริหารงานประมาณ 20% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมดที่ได้รับมา และต้องระวังในการบริหารเงินทุน หรือต้นทุนก่อสร้างไม่ให้ผิดพลาดหรือขาดทุนอีกด้วย
- เวลา
การทำงานต้องบริหารเวลาให้ดี เพราะการทำงานให้เสร็จตามในระยะเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้รับเหมาต้องทำให้ได้ ดังนั้นต้องบริหารทั้งการสั่งซื้อวัสดุให้ได้ในระยะเวลาที่กำหนด การแก้แบบงานต่างๆ การตรวจสอบงาน และส่งงานให้หน่วยงานต่อไป และการบริหารเวลาทำงานในวันหยุด ทั้งสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอย่างภัยธรรมชาติต่างๆที่จะส่งผลต่อระยะเวลาในการทำงาน
- เครื่องมือ/เครื่องจักร
งานก่อสร้างจำเป็นต้องมีเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการทำงาน ดังนั้น ผู้รับเหมา ต้องดูว่าต้องใช้เครื่องจักรมากหรือน้อยเท่าไหร่ เครื่องจักรจะต้องซื้อหรือเช่าและมีวิธีการคิดต้นทุนค่าใช้จ่ายยังไง เครื่องจักรบางตัวต้องใช้ในช่วงไหนของการก่อสร้าง อีกทั้งต้องดูแลรักษาเครื่องจักรไม่ให้เสียหาย หรือต้องใช้ระยะเวลาซ่อมนานเท่าใดหากเครื่องจักรชำรุดเพื่อไม่ให้การก่อสร้างสะดุด หรือต้องหยุดรอเครื่องจักร
- บุคลากร
ทรัพยากรบุคคลถือเป็นหัวใจหลักของการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหนก็ตาม เพราะต้องใช้คนในการบริหารงานและควบคุม งานก่อสร้างก็เช่นกันเพราะต้องใช้แรงคนในการทำงาน อีกทั้งการทำงานต้องประสานงานกับบุคคลหลายๆฝ่าย ดังนั้นจึงต้องใส่ใจและให้ความสำคัญทั้งกับคนที่ร่วมงานกันและกับลูกน้องใต้อำนาจ ทั้งด้านความปลอดในด้านอาหารที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพนักงานเสมือนคนในครอบครัว
- การวางแผนปฏิบัติงาน/การจัดการ
การทำงานต่างๆต้องมีการวางแผนโดยเฉพาะงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อน ต้องวางแผนการทำงานให้ดี เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงานและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะการทำงานตามแบบแผนที่วางไว้ ดีกว่าการทำไปเรื่อยๆแล้วต้องมาแก้งานทีหลัง อาจทำให้เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นด้วย
ผู้รับเหมาที่ดีไม่ควรมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆที่อาจก่อให้เกิดปัญหา และส่งผลกระทบต่อการทำงาน ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรบุคคลให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลที่หน้างานให้เป็นไปอย่างราบรื่น มีเครื่องจักรที่พร้อมทำงานอยู่เสมอ มีการวางแผนการปฏิบัติงานให้เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด และมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอตลอดระยะเวลาโครงการ และตัวช่วยอย่าง พจมาน 2 โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่เป็นมากกว่า ERPก่อสร้างทั่วไป เป็นระบบออนไลน์ สามารถทำงานได้ทุกที่ๆมีอินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องลงโปรแกรมจึงสะดวกมากขึ้น ข้อมูลสำคัญๆมีความปลอดภัย ทั้งการบริหารงานของฝ่ายต่างๆที่อยู่ในออฟฟิศ กับที่หน้างานจะประสานกันได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้รับเหมาฉีกข้อจำกัดในการบริหารงานแบบเดิมๆ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง
รับสร้างบ้าน ระหว่าง ผู้รับเหมา กับ บริษัท แบบไหนดี เรามีคำตอบ
ทำไมการสร้างบ้าน งบจึงบานปลาย คำถามและปัญหายอดฮิตที่เราได้ยินมาโดยตลอด วันนี้มาดูกันว่า เพราะอะไรทำไมจึงเกิดปัญหานี้ สาเหตุคืออะไร มีวิธีป้องกันอย่างไร และจะเลือกสร้างกับ บริษัทรับสร้างบ้าน หรือ จ้างช่างรับเหมาดี
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า การสร้างบ้านนั้นจะมีช่วงระยะเวลาในการทำงาน 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ
- ขั้นตอนการวางโครงสร้างบ้าน ซึ่งประกอบไปด้วยการตอกเสาเข็ม ทำฐานราก หล่อคานรับน้ำหนักมาจนถึงช่วงการก่ออิฐ ฉาบปูน ซึ่งขั้นตอนนี้จะเริ่มเห็นบ้านเป็นรูปเป็นร่าง
- ขั้นตอนนี้งบประมาณมักไม่ค่อยบานปลาย ยกเว้นมีการทุบรื้อผนัง หากขนาดของพื้นที่ใช้สอยไม่เป็นที่พอใจ
- ช่วงสุดท้ายของการก่อสร้างบ้าน ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีงบบานปลายมากที่สุด
วัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปูพื้น, วัสดุตกแต่งผนัง, สีทาบ้าน, สุขภัณฑ์, ซึ่งขั้นตอนนี้เจ้าของบ้านมักจะเปลี่ยนใจไปมา วัสดุบางอย่างราคาต่อชิ้นอาจจะเพิ่มขึ้นมาไม่กี่บาท ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อรวมหลายๆรายการกว่าจะรู้ตัวอีกทีงบประมาณก็บานปลายไปมากแล้ว
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้งบประมาณมักจะบานปลาย นอกเหนือจากการเลือกผู้รับเหมาที่ไม่เป็นมืออาชีพ ทิ้งงานกลางทาง ทำให้งบเกิดการบานปลาย จากการหาผู้มารับเหมาช่วงต่อแล้ว นั่นก็คือเรื่องความไม่ชัดเจนในความต้องการเช่น การตกลงเรื่องแบบบ้าน,พื้นที่ใช้สอย หรือวัสดุก่อสร้าง
จากที่เคยตกลงไว้กับผู้รับเหมาหรือบริษัทรับสร้างบ้าน แต่พอสร้างจริงแล้วเจ้าของบ้านมาเห็นรู้สึกว่าไม่เป็นไปตามที่ต้องการก็จะทำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนการเปลี่ยนใจมักจะเกิดขึ้นโดยที่เจ้าของบ้านมักจะยอมจ่าย“แพงขึ้น” เพื่อความพึงพอใจของตนอยู่เสมอๆ
การควบคุมงบไม่ให้บานปลาย
เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวต้องชัดเจน ทั้งเรื่องรูปแบบ วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง รวมถึงงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ ซึ่งการกำหนดงบประมาณ มี 3 ส่วน คือ
- งบประมาณการก่อสร้าง 60% ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนโครงสร้างและงานก่อสร้างหลัก ซึ่งไม่สามารถปรับลดได้ ค่าใช้จ่ายที่ปรับเพิ่ม-ลดได้ จะเป็นส่วนของงานตกแต่งเพื่อความสวยงามภายนอกบ้าน
- งานตกแต่งภายใน 30% เป็นเรื่องความสวยงาม รสนิยมของเจ้าของบ้าน เช่น แอร์ ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
- และอีก 10% เป็นงาน Landscape งานตกแต่งภายนอกอาคารทั้งหมด
เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาระหว่างการทำงาน และไม่ให้เป็นการเสียเวลามาแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนใจ ในขณะการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และงบบานปลายในที่สุด
ควรมีการตกลงหรือระบุเรื่องต่างๆ ให้ครบถ้วนและชัดเจนตั้งแต่ ราคาบ้าน แบบบ้าน วัสดุก่อสร้างที่ใช้ ระยะเวลาแล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาหรือบริษัทรับสร้างบ้าน ต้องมีการตกลงแก้ไขทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในสัญญาก่อนการก่อสร้างจริง
เมื่อถึงเวลาเลือกวัสดุฯ เจ้าของบ้านควรจะไปเลือกวัสดุให้ทันเวลากับที่หน้างานจะต้องใช้ เพื่อให้งานไม่สะดุดและเดินไปตามแผนที่กำหนดไว้
แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ควรจะปรึกษาผู้รู้ก่อน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นคุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ ไม่ควรคล้อยตามพนักงานขายเพราะอาจจะเป็นการจ่ายเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้การสร้างบ้านของแต่ละท่านนั้นก็มีความพึงพอใจและงบประมาณที่แตกต่างกัน การที่จะควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายที่สำคัญที่สุดคือเจ้าของบ้านต้องชัดเจนในความต้องการตั้งแต่ต้น
เลือกสิ่งที่ดีและคุ้มค่าให้ตนเอง เพราะถึงอย่างไรความพึงพอใจกับบ้านของตนก็สำคัญที่สุด แต่หากความพอใจที่ไม่สิ้นสุด ปัญหางบประมาณบานปลายย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เลือกสร้างบ้านกับใครดี
ความฝันของใครหลายๆคนคงอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง การสร้างบ้านให้ออกมาดีตามแบบที่เราต้องการ มีมาตรฐาน คือสิ่งสำคัญที่สุด แต่จะสร้างบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะเรื่องวัสดุการก่อสร้าง แบบบ้าน หรือผู้รับเหมา และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
ผู้รับเหมาสร้างบ้านหรือบริษัทรับออกแบบบ้าน ควรเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านงานก่อสร้างทำงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำเพราะความผิดพลาดในงานก่อสร้างนั้นนำไปสู่ความเสียหายทั้งเงินและเวลากลยุทธ์การคัดเลือกผู้รับเหมาคือการทำในสิ่งที่จะเป็นการป้องกันปัญหาต่างๆ
ในปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านเกิดขึ้นจำนวนไม่น้อย ทำให้เรามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะสร้างบ้านด้วยตัวเอง หรือจะให้ บริษัทรับสร้างบ้าน ที่เป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอน วันนี้เราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างของการสร้างบ้านในทั้งสองรูปแบบนี้ว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
การสร้างบ้านด้วยตัวเอง
คือ การที่เราไปหาผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาดูแลตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการสร้างบ้านที่หลายคนนิยม เพราะราคาที่ไม่สูง แถมยังสามารถกำหนดวัสดุที่ต้องการได้แบบที่ตัวเองถูกใจ
แต่การสร้างบ้านด้วยตัวเองนั้นต้องอาศัยความรู้ด้านการก่อสร้างพอสมควร ควรศึกษารายละเอียดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างต่างให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการโกงของผู้รับเหมาด้วยเช่นกัน

ต่อเติมบ้านโครงการเขตบางนา